เทคนิคการขับขี่ปลอดภัยช่วงหน้าฝน
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว 2 ล้อทุกคน ช่วงหน้าฝนของทุกๆ ปีที่มาถึง พวกเราก็ใช้ชีวิตกันลำบาก การขี่รถไปเจอฝนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากครับ แต่ถ้าหากว่าเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ จำเป็นต้องลุยไปจริงๆ เราจะต้องทำยังไง ขับขี่แบบไหนถึงจะปลอดภัยสำหรับตัวเรา และเพื่อนร่วมทางให้มากที่สุด วันนี้พวกเราทีมงาน “ธานยานยนต์ พี.เอ็น.ที.” มีเทคนิคดีๆ มาแบ่งปันเพื่อนๆ ผู้ใช้มอเตอร์ไซด์กันครับ
ก่อนอื่นต้องเช็คความพร้อมของตัวรถกันก่อน ด้วยหลักการ 3 เช็คง่ายๆคือ เบรค ,ยาง และไฟ
- เช็คระบบเบรค แน่นอนว่าในภาวะถนนลื่นแบบนี้ ระบบเบรคต้องทำงานมากกว่าปกติ ดังนั้นก่อนจะขับขี่ในวันฝนตก แนะนำให้ตรวจเช็คระบบเบรคของรถว่าทำงานเต็มประสิทธิภาพอยู่ไหม ไม่ว่าจะเป็นผ้าเบรค น้ำมันเบรค สายเบรค เพื่อให้มั่นใจว่าระบบเบรคพร้อมใช้งานอยู่ และที่สำคัญในการใช้เบรค คือ ช่วงที่เบรคเปียกน้ำ จะต้องย้ำๆ เบรคหลายๆ ครั้ง เพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรค ให้เบรคทำงานได้ดีขึ้น
- เช็คดอกยาง ให้มั่นใจว่าสภาพพร้อมใช้งาน ดอกยางนั้นสำคัญมาก ยิ่งในวันที่ถนนลื่นจากน้ำฝน ยิ่งต้องดูให้มั่นใจว่าดอกยางบนยางของเรานั้นมีสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ วิธีเช็คก็ง่ายๆ ให้ดูที่ร่องดอกยางควรมีความลึกในร่องดอกยางพอสมควร หรือเรียกง่ายๆคือ ดอกยางต้องไม่หัวโล้นนั่นเอง และพวกเรามีเทคนิคดีๆ มาแนะนำคือ ควรลดแรงดันลมยางลงจากค่ามาตรฐาน 1-2 ปอนด์โดยประมาณ เพื่อช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนให้ดีมากยิ่งขึ้น
- เช็คระบบไฟฟ้า สิ่งนี้ก็สำคัญมากในวันฝนตก นอกจากถนนลื่นจากน้ำฝนแล้ว สภาพอากาศในวันฝนตกยังทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดน้อยลงด้วย ดังนั้นต้องมั่นใจว่า ระบบไฟฟ้า ทั้งไฟส่องสว่างและไฟสัญญานต่างๆ ในรถของเราทำงานดีอยู่ เทคนิคที่แนะนำคือ ห้ามใช้ไฟสูง เพราะไฟสูงจะไปสะท้อนกับเม็ดฝนหรือน้ำที่ขังอยู่ จนทำให้แสงไฟฟุ้งกระจาย และทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่แย่ลง ควรใช้ไฟต่ำในการขับขี่แทน เพราะจะทำให้รถที่อยู่ใกล้ๆ สามารถเห็นรถของเราชัดเจนขึ้น
เมื่อสภาพรถของเราพร้อมลุยแล้ว ต่อมาก็จะเป็นการแต่งตัว และเทคนิคการขับขี่
- ใส่หมวกกันน็อค ล็อคสายรัดคางให้เรียบร้อย ควรเลือกหมวกกันน็อคที่มีซิลด์ปังน้ำฝนที่รีดน้ำดีๆ การใส่หมวกกันน็อคคือพื้นฐานความปลอดปลอดภัย ยิ่งการขี่ลุยฝนด้วยแล้วยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะโอกาศที่จะเกิดอุบัติเหตุมีมากกว่าสถานการณ์ปกติ
- การเลือกใส่เสื้อผ้า ควรเลือกเสื้อผ้าหนาๆ กางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้น และสวมถุงมือขับรถ แล้วค่อยใส่ชุดกันฝนทับไปอีกชั้น เพราะเสื้อผ้าหนาๆ ช่วยให้ร่างกายเราอบอุ่นเวลาเดินทาง ซึ่งหากเราหนาวมากๆ จนเกินไปมือจะสั่นซึ่งจะมีผลต่อการควบคุมรถ ทำให้ความสามารถในการควบคุมรถลดน้อยลง
- เทคนิคในการขับขี่รถในสถานการณ์ฝนตก เราควรลดความเร็วลง และ เผื่อระยะเบรกให้มากขึ้น เพราะเวลาที่ฝนตกถนนจะลื่นกว่าปกติ ส่งผลต่อระยะเบรคทำให้ต้องหยุดรถยาวขึ้น และอาจทำให้รถมีโอกาสลื่นไถลได้มากขึ้น ดังนั้น เราควรลดความเร็วขณะขับขี่ลง นอกจากนั้น เราต้องเว้นระยะห่างจากรถคันข้างหน้า และหลังให้มากขึ้น โดยกะระยะประมาณ 2 คันรถในการเว้นระยะห่าง และถ้าต้องขับผ่านช่วงที่มีน้ำท่วมสูงพอประมาณ และลักษณะของรถเรามีคุณสมบัติพอจะผ่านน้ำท่วมสูงไปได้ เราควรปฎิบัติดังนี้ ต้องเพิ่มรอบเครื่องยนต์ให้สูงขึ้น แล้วใช้เกียร์ต่ำ พยายามรักษาความเร็วให้คงที่ตลอดเวลาตอนลุยน้ำ เพื่อให้มีแรงดันจากท่อไอเสียดันน้ำออก และถ้าหากมีรถคันอื่นนำหน้าเราอยู่ให้ขับไปตามแนวเส้นเดียวกัน เพื่อจะได้เห็นสถานการณ์ว่าถนนขาดเสียหาย หรือมีหลุมลึกหรือไม่ และเมื่อขับขี่ผ่านจากจุดที่น้ำท่วมสูงแล้วให้ขับรถช้าๆ ย้ำเบรกไปเรื่อยๆ สักพัก จากนั้นก็ค่อยเดินทางต่อ แต่ถ้าเจอสถานการณ์ที่น้ำท่วมสูงจนเกินกว่าที่ลักษณะคุณสมบัติของรถเราจะไปได้ แนะนำว่าอย่าลุยดีกว่าครับ
เทคนิคการขับขี่รถเพื่อลุยฝนที่กล่าวมานั้น เป็นทางเลือกสำหรับท่านที่ต้องลุยฝนจริงๆ แต่ด้วยความปลอดภัยที่ดีที่สุด หากฝนตกหนักแล้วท่านไม่มั่นใจในการขับขี่หรืออุปกรณ์ไม่พร้อม ควรจอดรถหลบฝนซักพักค่อยเดินทางต่อดีกว่าครับ ด้วยความปารถนาดีจาก บริษัท ธานยานยนต์ พี.เอ็น.ที. จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า
“บทความโดย นาย แสงอาทิตย์ แก่นคำ (ที่ปรึกษางานขาย บริษัท ธานยานยนต์ พี.เอ็น.ที.จำกัด)”